การใช้สื่อของวิกรมนั้น ผมไม่ได้พูดถึงประเด็นสำคัญ นั่นคือหนังสือประวัติชีวิตเล่มแรกของเขา หนังสือเล่มนั้นคือ “ผมจะเป็นคนดี”
ครั้งแรกที่ผมได้สัมภาษณ์วิกรมเมื่อประมาณกลางปี 2547 นั้น ผมไม่ได้เคยพบเขามาก่อน ความรู้เกี่ยวกับตัวเขาค่อนข้างน้อย ตอนนั้นเขายังไม่โด่งดังเป็นพลุแตกเฉกเช่นทุกวันนี้
เขาเพิ่งสึกไม่นาน หลังจากบวชอยู่กี่เดือนผมก็จำไม่ได้เหมือนกัน
ก่อนวันที่สัมภาษณ์ ผมได้อ่านหนังสืออัตชีวประวัติฉบับแรกของเขาที่ชื่อ “ผมจะเป็นคนดี”
หนังสือเล่มนี้เป็น autobiography ที่แปลกที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา เพราะเปิดฉากมาก็เป็นบทที่ว่าด้ายเขาบึ่งรถกลับบ้านที่เมืองกาญจน์เพื่อเปิดศึกกับพ่อ ถึงขนาดเอาเป็นเอาตายทีเดียว
เรื่องราวแบบนี้ ฝรั่งเรียกว่า “โครงกระดูกในตู้” หมายความว่าเป็นเรื่องลับในครอบครัวที่เก็บเอาไว้ไม่เล่าให้ฟัง
ผมใช้คำว่า “เล่า” หมายถึงการพูดโดยผ่านปากให้บุคคลที่ 3 ฟัง ซึ่งขนาดเล่าก็ไม่ทำกันแล้ว อย่าว่าจะเขียนให้คนทั้งประเทศอ่าน
หนังสือเล่มนี้เกือบครึ่งเล่ม เขียนถึงความขัดแย้งและปมในใจที่เขามีต่อพ่อ ซึ่งผมคิดว่าน้อยคนจะกล้าเขียนออกมาแบบถึงกึ๋นขนาดนี้ เพราะในสังคมไทยจะถือกัน ทำให้ผมแปลกใจมากๆ เพราะวิกรม ในสายตาของผมเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์เอามากๆ ข่าวไม่ดีของเขาไม่ค่อยหลุดออกมา แล้วทำไม จู่ๆถึงได้เขียนหนังสือออกมาได้ เรื่องนี้สร้างความประหลาดใจให้หลายคนเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซียนพีอาร์ทั้งหลายที่เอาคงร้องเสียงหลง
“ผมจะเป็นคนดี” สร้างปรากฏการณ์การเขียนประวัติชีวิตตนเอง ที่เอาความจริงมาตีแผ่ ไม่ใช่เขียนเอง เออเอง มีแต่ความดีทุกกระเบียดนิ้ว เพราะมนุษย์ทุกผู้นาม ไม่ดีใครดีหมดและชั่วหมดอยู่แล้ว
“ผมจะเป็นคนดี” ได้ Branding วิกรมว่าเขาเป็นผู้ประกอบการที่กล้าพูดความจริง เพราะขนาดเรื่องที่คนทั่วๆไปไม่กล้าพูดถึงมากที่สุด เขายังนำมาเปิดฉากหนังสือหน้าแรกของเขานั้น ทำให้ผู้อ่านต้องคิดว่าเขาเป็นคนเปิดเผย มีอะไรก็พูดออกมาตรงๆ คนที่เคยคุยกับเขา “นอกรอบ” จะรู้ดีว่าเขาเป็นคน “ตรงมาก”
ประวัติชีวิตเล่มแรกของเขาเรียบเรียงโดย ประภัสสร เสวิกุล นักเขียนรางวัลซีไรท์ ซึ่งคุ้นเคยกับชีวิตเจ้าสัวไทยเป็นอย่างดี เพราะเขาคือผู้เขียนนิยายเรื่อง “ลอดลายมังกร” ซึ่งว่ากันว่าเป็นการนำเอาชีวิตของนายห้างเทียมกับนายห้างชินมาผสมกัน
ดังนั้นต้องถือว่าวิกรมพิถีพิถันและเลือกถูกคน
“ผมจะเป็นคนดี” เล่มแรกทำเป็นพ็อกเก็ตบุ้กส์ขนาดมาตรฐาน ขาย 200 กว่าบาท ขายดีมาก วิกรมกันไว้แจกหลายพันเล่ม แจกให้คนหนุ่มๆที่ผิดพลาดในชีวิตจนต้องติดคุกติดตะราง
“ผมอยากจะสร้างลายแทงชีวิตให้กับคนที่กำลังเดินอยู่ พวกหนุ่มๆ ทั้งหลาย อยากให้เซฟเวลา ในการที่พวกเขาต้องเดินให้มันเซฟ ลดต้นทุนชีวิต เมื่อลดต้นทุนชีวิตได้ สังคมก็จะเข้มแข็ง เพราะว่าไม่ไปเสียโดยใช่เหตุ
อันที่สอง ผมอยากให้ความผิดพลาดของเขาน้อย เพราะการที่เขาผิดพลาดยิ่งน้อย ปัญหาของสังคมก็ยิ่งต่ำ อันนั้นคือประเด็นที่ผมนั้นตอนเด็กๆ เราอยากจะได้ในสิ่งที่เรากำลังจะให้ เพราะตอนนั้นเราไม่มี ตอนที่ไม่มีเราโหยหา เราต้องการ เรารู้คุณค่าของมัน แต่เมื่อเรามี เราต้องมาผลิต เราต้องมาถ่ายทอด เราต้องมาส่งต่อ เพราะเราถือว่านี่คือหน้าที่”
“ผมจะเป็นคนดี” ฉบับสมบูรณ์ยังไม่พิมพ์ แต่ทยอยตีพิมพ์ตามหนังสือพิมพ์และนิตยสารบางเล่ม
วิกรมวางแผนจะออกหนังสือปีละ 3 เล่ม ตอนนี้ออกได้ 4-5 เล่มได้แล้ว
เล่มสุดท้ายของเขาวางพล็อตเอาไว้แล้ว
“ ผมก็ตั้งชื่อเรื่องไว้แล้ว “เมื่อวันนั้นมาถึง” ผมจะเขียนต่อเมื่อผมนั่งอยู่บนเตียงแล้ว ผมจะหยิบปากกาเขียน ปากกาเล่มนั้นจะเขียนหมึกหยดสุดท้ายจะไปหยดจนกระทั่งลมหายใจสุดท้าย
ผมอยากจะบอกคนในโลกนี้ที่ยังหายใจอยู่ให้รู้ว่านี่คือวันของมัน และก่อนที่จะไปถึงวันของมันในช่วงนั้น ตาแก่คนหนึ่งจะเจออะไร มีความนึกคิดอะไรที่กำลังจะเดินไปข้างหน้า ผมรู้สึกอะไรตอนนั้น ผมมองเห็นอะไรตอนนั้น และคิดอะไรตอนนั้น
และอยากจะบอกอะไรตอนนั้น ผมจะบอกออกมาเป็นหนังสือเล่มนั้นให้หมดเลย เล่มสุดท้าย”
ปล.ขอไฟล์ฉบับเต็มเป็น PDF ได้ที่ข้างล่างครับ เขียนเกี่ยวกับคุณวิกรมให้แกชื่นใจหน่อยเถอะ
Marketing and Management 
ตื่นเช้ามาจะมีอะไรดีไปกว่าการหมุนคลื่นวิทยุไปที่ 96.5 พร้อมจิบกาแฟร้อนๆ ฟังได้แทบทั้งวันซึ่งผมเป็นแฟนประจำรายการของคุณวิกรมและ CEO vision ฟังแล้วได้ความรู้เหลือคณา(ขอคาระวะ 1 จอกท่านอาจารย์) และผมต้องขอบคุณมากที่แปลหนังสือ rethinking-the future ผมว่าเป็นหนังสือที่ดีมากๆเพราะผมอ่านไป 3 รอบ ถ้าหากนักศึกษาอ่านน่าจะเป้นประโยชน์กับประเทศในวันพรุ่ง แต่หากผู้ประกอบไม่ว่าเล็กหรือใหญ่(คับแก้ว)อ่านแล้วเป็นประโยชน์กับประเทศวันนี้เดี๋ยวนี้…และขอบคุณที่ชอบยกตัวอย่างเรื่องสามก๊กทำให้กระตุกต่อมอยากรู้ของผมหายใจเข้าออกแป๊บเดียวอ่านไป 2 รอบแล้ว(คาระวะอีกสักจอก) สุดท้ายขอ file คุณวิกรมด้วยนะครับ
มีอยู่วันหนึ่ง ได้ดูคุณวิกรมออกโทรทัศน์
พ่อที่ดูอยู่ด้วยกัน บอกว่าตาคนนี้เพี้ยนๆ ว่ะ
แต่ตัวเองชอบมาก คือวิธีคิดของคุณวิกรม
เป็นวิธีแบบ OFFBox สุดๆ เจ้าของธุรกิจ
หลายๆ ท่าน คิดถึงในแง่ของรายได้ กับ
การดำรงอยู่ขององค์กร แต่คุณวิกรมมักมี
การวางแผนที่สอดแทรกอารมณ์ ความนึกคิด
ความเป็นตัวเขาเข้าไปในสิ่งที่เขาทำเสมอ
ถ้าคุณวิกรมเป็นคนบ้า หนูว่าคุณวิกรมเป็น
คนบ้าที่เก่งโคตรๆ เลย เพราะเขาทำเรื่องบ้าๆ
ให้เป็นชิ้นเป็นอันได้เสมอ…
ถ้าจะกรุณา รบกวนขอไฟล์ด้วยค่ะ ‘ จารย์ ;D
ส่งให้แล้วครับ
ส่งให้ mr.clean แล้วเด้งกลับมาครับ
เคยฟังคุณวิกรมพูดทาง 96.5 เรื่องชีวประวัติบุคคลสำคัญของโลกท่านต่างๆ
ดีตรงที่ได้สอดแทรกมุมมองความคิดเทียบเคียงกับสังคมปัจจุบัน
ทำให้ผู้ฟังมีความคิดที่แตกฉานในประเด็นอื่นๆ ด้วย
ได้ยินว่าเคยมีพรรคการเมืองหลายพรรคทาบทามคุณวิกรมให้เข้าสู่การเมือง
อยากฟังทัศนะของคุณวิกรมว่าคิดเห็นอย่างไรต่อการเมืองไทยในปัจจุบันถึงอนาคตนี้
คุณวิกรมใช้ชีวิตสมถะอยู่ในบ้านกลางบึงน้ำ ศึกษาธรรมะ น่าจะออกไปในแนวเซ็นหรือเต๋า
เพราะในการแสดงความคิดเห็นของคุณวิกรมมักจะมองในเชิงของ System Thinking
คิดไปถึงต้นตอเสมอน่าจะสอดคล้องของหลักธรรมชาตินะครับ
สุดท้ายนี้ยังรอฟัง รออ่าน ทัศนะมุมมองต่างๆ ของคุณวิกรมอยู่ครับ
อยากได้ไฟล์รบกวนขอด้วยนะครับ
โดยส่วนตัวผมชอบเค้านะครับ เค้ามีความคิดเป็นของตัวเองแบบมีเหตุมีผลและกล้าที่จะเสนอให้ทุกๆคนรับทราบแบบว่าไม่ค่อยเกรงใจเท่าใดนัก(แนวคิดของเค้าแปลกดีครับ) แต่ผมก็ชอบนะครับเพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความคิดใหม่ๆได้อย่างรวดเร็ว และพัฒนาได้อย่างเร็ว และที่สำคัญอีกเรื่องที่ผมชอบเค้าคือชอบรถสปอร์ตเหมือนกัน แต่เขาชอบและทำสิ่งที่ชอบสิ่งที่ฝันให้เป็นความจริงได้โดยการได้สะสมรถพวกนี้ ผมขอให้เค้าเป็นตัวอย่างของผมในเรื่องนี้ละกันครับ
ขอไฟล์ด้วยนะจ้ะ
ขอบคุณครับ
คุณวิกรม มีความคิดที่แปลกมาก และมีประสบการณ์ทางธุรกิจที่เป็นประโยชน์มาก ทั้งยังแชร์ความรู้แก่สังคมผ่านรายการ เคยฟังสัมมนาเกี่ยวกับจีนจากท่าน เก่งงาน เก่งพูด ถ่ายทอดได้ดี
Role Model ชั้นยอด และยังเป็นผู้ให้กับสังคม ผ่านหนังสือ รายการต่างๆ รวมทั้งมูลนิธิอมตะ
ขอไฟล์ด้วยครับ
การได้ฟังประสบการณ์หรือเรื่องเล่าจากคุณวิกรม รวมถึงหนังสือหรือบทความทำให้ผมซึ่งยังไม่สามารถหาความสำเร็จใดๆได้ในชีวิตได้ ( ปัจจุบันเรียนยังเรียนอยู่ ) ต้องหยุดและ่คิดว่าการจะมีแนวคิดหรือการปฏิบัติให้เป็นไปตามที่คุณวิกรมได้พูด ได้เขียนไว้นั้น จะมีความเป็นจริงได้เพียงใด เพราะในมุมหนึ่งก็ดูเหมือนคุณวิกรมจะผ่านและสัมผัสอะไรในชีวิตมามากมาย จนพูดได้ว่าเพียงพอแล้ว แต่ในอีกมุมหนึ่งก็คือเราจะหยุดความต้องการเหล่านั้นในชีวิตได้จริงหรือ? แต่จะด้วยเหตุผลหรือจุดประสงค์อะไรก็ตาม การได้ติดตามผลงานของคุณวิกรม ก็เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายได้ใช้พลังทางความคิดได้อย่างมหาศาลเมื่อเทียบกับสื่อห่วยๆที่ถูกยัดเยียดอยู่ตลอดเวลา
ปล. สนับสนุนผลงานของคุณวิกรมเสมอ
ดิฉันรู้จักคุณวิกรมครั้งแรกจากสื่อโทรทัศน์โดยออกมาพูดเรื่องธุรกิจที่เวียดนามพร้อมกับน้องชายและก็พูดเรื่องหนังสือดว้ย หลังจากนั้นก็นานพอควรมาเจอว่าจัดรายการวิทยุที่ 96.5 [สามีของดิฉันบอกเองคะ]เมื่อประมาณต้นปี 49 ก็เลยไปฟังมาเรื่อย โทรเข้าไปถามในรายการ CEO Vision ก็ได้หนังสือ “ผมจะเป็นคนดี” มาอ่าน จนจบไป 2 รอบ ยังไม่เคยเจอตัวจริง[ทั้งที่มีงานสัมมนาจัดให้อยู่]เพราะติดภาระกิจ จริงๆแล้วอยากเจอนะคะ จากทั้งหมดนี้ที่ได้รู้จักคุณวิกรมก็ชื่นชอบในความเป็นตัวของเขา ที่กล้าเอาเรื่องราวส่วนตัวมาเผยแพร่ ซึ่งคนราทุกวันนี้หาแบบนี้ได้ยากมาก [แม้แต่คนใกล้ตัวดิฉัน(สามี)ยังไม่กล้ายอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นเลยคะ]ก็รู้แต่ว่าชอบนะคะ ชอบที่ทำอะไรๆๆ ได้สำเร็จ อาจจะเป็นที่ตัวดิฉันมิได้เคยทำงานอะไรได้สำเร็จเลย ซึ่งล่าสุดก็โดนสามีว่าให้หัดคิดให้เป็นซะบ้าง ก็พยายามแล้วนะก็ได้แค่เนี่ยเลี้ยงลูก 2 คนเท่านั้นเอง แต่มาฟังคุณวิกรมเลี้ยงหลานตั้ง 30-40 คนทำได้ไงเนี่ยเก่งจัง แต่ก็จะพยายามเอาจุดดีๆที่มีในหนังสือเอามาปรับใช้ไห้เข้ากับตัวเองแล้วถ้าโทรติดก็จะไปฝากคำถามใว้กับรายการเพื่อที่คุณวิกรมจะได้ตอบออกอากาศทางวิทยุดว้ย นะคะ ขอบคุณมากคะ
ขอแสดงความเห็นนะครับ ผมเคยพบคุณวิกรมนานมากแล้วในงานแต่งงานของเพื่อน เจ้าบ่าวที่เป็นเพื่อนของผมได้เรียนเชิญมาเป็นแขกVIP ตอนนั้นคุณวิกรมยังไม่ดัง แต่ก็มีการกล่าวถึงความคิดที่มาแรง กล้าทำในสิ่งที่ตอนนั้นใหม่มากๆสำหรับเอกชนที่กล้าเช่นนั้น หลังจากนั้นผมได้รับทราบข่าวเกี่ยวกับคุณวิกรม หลังจากที่คุณวิกรมประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำเรื่อยมา ผมเห็นอย่างชัดเจนว่าคุณวิกรมเป็นคนกล้าคิดกล้าทำและมุ่งมั่นมากๆที่เป็นคุณสมบัติที่ CEO ต้องมี นอกจากนั้นคุณวิกรมวางPOSITIONING ของตนเองได้ดี และแตกต่าง โดดออกมาจากบรรดา CEO ทั่วไป และfocus ได้ดี ทั้งด้านความคิด life-style และสิ่งที่ทำ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สื่อตลอดจนผู้คนสนใจคุณวิกรม ว่ากันว่า ผู้ว่ากทม.ของเราน่าจะเป็นคุณวิกรมแต่ผมว่านายกรัฐมนตรีน่าจะเหมาะกว่า (แต่แน่นอนครับว่าแรงเสียดสีทางการเมืองมากเหลือเกิน)
และผมต้องคารวะต่ออาจารย์ธันฯและคุณอาทิตย์ที่ยืนหยัดนำดสนอสิ่งดีๆต่อสาธารณะ ที่หาได้ยากยิ่งในยามนี้ครับ
Khun Vikrom is one of my mentor. I like his vision and thought. I’ m one of your fan on 96.5 FM. Thank you to share great info and knowledge throughout the years.
I want to request his PDF file.
ผมเป็นแฟนรายการของ fm 96.5 หลายรายการ รายการ CEO vision ก็เป็นรายการหนึ่งที่ทำให้ผมมีความรู้ มีความหวัง มีเป้าหมาย ในการดำรงชีวิต แม้ชีวิต จะล้มลุกคลุกคล้าน ผมอายุ 30 ปี ผมเกิดในครอบครัวที่แตกแยก แต่ความเป็นอยู่ค่อนข้างสบายทางวัตถุ แต่ภายในใจนั้นบอบช้ำ กับชีวิต ตั้งแต่เด็ก ชีวิตจะสับสนมากช่วงจะต้องตัดสินใจเข้าเรียน ป.ตรี ผมเลือกคณะบริหารธุรกิจ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากไม่มีเป้าหมายที่ดี และแรงจูงใจที่ดี (ภายหลังมานั่งพิจารณา) ทำธุรกิจส่วนตัวก้อ ล้ม จนกระทั้งเมื่อประมาณปี 2544 เป็นช่วง เบญจเพส พบว่าผมเป็นมะเร็ง ในช่องอก ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่ได้มีโอกาสเข้าโรงพยาบาลตอนหนุ่ม ทำให้ผมได้เห็นภาพ ผู้คนที่อยู่ในห้องคนไข้รวม ที่มีทั้งคนหนุ่ม ไปถึงคนสูงวัย ผมได้เรียนรู้ว่า เมื่อเรามีอายุมากทุกคนก็ต้องมีเจ็บและตายจากโลกนี้ไป แต่คนหนุ่มนั้นก็มีโอกาสตายได้เหมือนกัน จากประสบการณ์ดังกล่าว ระหว่างที่ผมป่วยขณะนั้นผมกำลังเรียน ป.ตรีที่ใหม่ อยู่ปีที่ 2 ผมไม่ได้คิดว่าผมจะต้องตาย ผมสับสน ว่าจะเดินหน้าชีวิตต่อไปอย่างไร
ในช่วงที่ป่วยผมมีเพื่อนเป็นวิทยุ วิทยุให้ความรู้ผมทำให้ผมสามารถมองอนาคตได้ชัดเจนมากขึ้น รายการCEO vision ก็เป็นหนึ่งในใจ ยิ่งในช่วง วัน พุธ – วันศุกร์ แม้บางครั้งผมไม่สามารถฟังสดได้ เมื่อมีโอกาสผมก็นั่งฟังคลิบจากhttp://radio.mcot.net/fm965/ ซึ่งจะชอบมากในช่วงวันศุกร์ ที่คุณวิกรมตอบคำถามจากทางบ้าน ครั้งหนึ่งที่ได้พบคุณวิกรม ที่โรงแรม ดิเอมเมอรัลรัชดา ในงานFM96.5 ผมนำหนังสือผมจะเป็นคนดีไปให้เซ็นต์ชื่อ คุณวิกรมถามว่า ผมเป็นคนแบบไหน ผมตอบ”เป็นคนสู้ชีวิต” คุณวิกรมจึงเขียนในหนังสือว่า “เรียนรู้ก่อนสู้” พร้อมลายเซ็นต์ แม้ว่าจะเป็นประโยคสั่นๆ เป็นประโยคที่ทำให้ผมมีความละเอียด รอบครอบในการดำเนินชีวิตมากขึ้น เนื่องจากในอดีตผม ใช้ชีวิตโดยไม่ได้ศึกษาในสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำ ก่อนลงมือทำ ขาดข้อมูลที่ถูกต้อง ทำให้ผมล้มเหลวในการดำเนินชีวิต ทั้งในการทำธุรกิจ และการเรียน
ปัจจุบันนี้ผ่านมาประมาณ 5 ปี จาก ปี2544 ผมจบปริญญาตรีเมื่อปี 48 และกำลังจะจบปริญญาโท เร็วๆ นี้ และขอขอบคุณ Fm 96.5 ที่มีรายการดี ๆ ให้ผมได้ฟัง
ปล.สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณ เป็นพิเศษ สำหรับรายการ business connection ที่ให้ความรู้ด้านการตลาด และ ให้โอกาสเข้าร่วมในงาน สัมมนา หลาย ๆ ครั้ง 555
ผมเป็นผู้ฟังรายการเคยฟังอยู่ ที่อยากฟังรายการ back date ที่จัดแต่ละวัน เพราะบางครั้งไม่สะดวกที่จะฟัง live จะทำอย่างไรครับ เพราะ web mcot มีการปรับปรุงใหม่ และระยะหลังไม่ค่อยมีเวลาครับ
– รบกวนช่วยส่ง file ของคุณวิกรมให้ด้วยครับ
– ถ้ามี file อื่นอีกก็รบกวนช่วยส่งให้ด้วยครับ (ล่าสุด เป็น file ของคุณเทียม ครับ)
P.S. ขอขอบคุณสำหรับความรู้ที่ได้รับจากทางรายการครับ แล้วเรื่องรายการ back date ถ้าได้เป็น file มาก็ยิ่งดี จะได้เก็บไว้ฟังอีกคราวหลัง รบกวนตอบมาที่ E-mail นะครับ
Best regards
โดนส่วนตัวแล้ว จากการที่ได้ติดตามข้อมูลของคุณวิกรมมาพอสมควร ถือว่าคุณวิกรมเป็นนักธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์ที่ดีมากคนหนึ่งของเมืองไทย มีแนวคิดในการพัฒนาสังคม โดยการนำเสนอมุมมอง ความคิดและความรู้ที่มีประโยชน์ เป็นตัวอย่างที่ดีต่อนักธุรกิจทั้งหลาย ซึ่งผมคิดว่าประเทศไทยมีนักธุรกิจที่ดีแบบนี้อีกหลายคน มีแนวคิดที่ดีต่อสังคมอีกมากมาย ควรนำเอาบุคคลเหล่านี้ มาช่วยกันเผยแพร่สิ่งต่างๆเหล่านี้ออกสู่สาธารณะให้มากยิ่งขึ้น ทางคลื่นความคิด FM.96.5 ถือได้ว่าเป็นสื่อกลางในการนำเอาความคิดดีๆเหล่านี้มาเผยแพร่ ให้สู่ประชาชนผู้ฟังทั้งหลาย ก่อให้เกิดเป็นแรงบรรดาลนำเอาไปปรับใช้ เพื่อการพัฒนาตัวเองและพัฒนาสังคมส่วนร่วม อันจะเป็นพลังผลักดันที่ยิ่งใหญ่ต่อการพัฒนาประเทศชาติต่อไป
ส่งให้แล้วนะครับ
คนไทยส่วนมากไม่ค่อยชอบเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ ไม่ให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์ ต่างจากประเทศตะวันตก และประเทศยิ่งใหญ่ในเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ล้วนให้ความสำคัญและลงทุนลงแรงด้วยเงินมหาศาล เพื่อรักษาประวัติศาสตร์ของชาติ ตอนนี้ยังมี เกาหลีใต้ที่พยายามจะสร้างประวัติศาสตร์เกาหลีของตัวเองขึ้นมาทั้งที่บันทึกประวัติไม่มี สร้างผ่านสื่อภาพยนต์ ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเรืองจริงหรืออุปโหลกขึ้นมา ผมคิดเอาเองว่าคุณวิกรม อยากจะเตือนคนไทยอ้อมๆว่า ควรศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ให้มาก (รู้อดีต เข้าใจปัจจุบัน สร้างอนาคต) ผมจบปริญญาวิทยาศาสตร์แต่สนใจเรื่องราวในอดีต เพื่อผลสำเร็จในอนาคต เสียดายไม่ค่อยได้ฟังคุณวิกรม แต่ฟัง BUSSINESS CONECTION ตลอดไม่เคยพลาด ระยะหล้งจาก 7 ต.ค. 50 เป็นต้นมาไม่ได้รับ PDF FILES เลย ผมขอ PDF FILES นี้ด้วยครับ / ขอขอบคุณมาก
ขอไฟล์ด้วยครับ
ข้าน้อยขอคาราวะ อาจารย์ทั้งสองที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาจากสำนักmcot radio ไว้ ณ ทีนี้ด้วย ฟังทั้งสองรายการทุกวัน แต่ตอนเช้านี่ฟังมั่งไม่ฟังมั่ง คุณวิกรมแก บางทีคุณวิกรมเหมือนเค้าเอาข้อมูลมาอ่านให้ฟังน่ะครับ แกน่าจะอัพโหลด แล้วบอกurlมาให้อ่านก้อได้น่ะครับ
*** อาจารย์ ธันยวัชร์ ขอรับผม เปิด IE มาหน้าแรกของผมจะเป็นบล็อคของอาจารย์เลย ถ้ามีอะไรใหม่นี่ก้อจะได้อ่านอยู่เป็นประจำ แต๊ง จารย์นะ
รับข้าน้อยเป็นศิษย์ด้วยครับ
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณที่มีรายการดีๆอย่าง Business Connection อยากให้รายการนี้อยู่คู่กับสถานีไปนานๆค่ะ
ต้องบอกอีกอย่างนะคะ รายการนี้ต้องอย่าขาดคุณธันยวัชร์เลยค่ะ เพราะเสียงหัวเราะของคุณธันยวัชร์ทำให้หนูรู้ว่า รายการมาแล้ว อย่าหมุนคลื่นไปไหน จะได้เตรียมปากกาจดเล็กเชอร์น่ะค่ะ
แต่หนูจะมีเวลาเล็กเชอร์เต็มจริงๆเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้นค่ะ เพราะหนูจะได้ฟังรายการสดน้อยมากค่ะ ได้แค่ช่วงเวลาประมาณตอนเที่ยงครึ่งถึงบ่ายโมงทางอินเตอร์เน็ต แต่ต้องฟังรายการเต็มๆอีกครั้งตอนกลางคืน ซึ่งเดี๋ยวนี้ต้องบอกเลยค่ะดึกมากๆ หนูอยากให้รายการไปออกตอนช่วงเดิมได้ไหมคะ คือประมาณเที่ยงคืนครึ่งถึงตีสองน่ะค่ะ เพราะตอนนี้วันธรรมดาต้องนอนตอนเกือบตีสามทุกวันเลยค่ะ แล้วก็ต้องตื่นเช้าด้วย อยากฟังก็อยากฟังค่ะ ขาดฟังไปก็ไม่ต่อเนื่องค่ะ
โดยส่วนตัวหนูเคยเจอคุณวิกรมตัวจริงเมื่อซักประมาณ 14-15 ที่แล้วค่ะ (จบและทำงานได้ไม่นานค่ะ) ตั้งแต่ยังบริหารบริษัท V&K ซึ่งตั้งอยู่ตรงถนนเพชรบุรี ตึกโซนี่น่ะค่ะ (ตอนนั้นหนูอยู่โรงงานทำผลไม้กระป๋องค่ะ) ได้เห็นครั้งแรกรู้สึกว่าคุณวิกรมเท่ห์มากๆเลยค่ะ เท่ห์ทั้งบุคคลิกภาพและการบริหารงาน ซึ่งตอนนั้นยังรู้สึกเลยค่ะว่าโอ้โหทำไมผู้บริหาร(เจ้าของด้วยค่ะ)คนนี้ยังหนุ่มมาก ก็ไม่เคยคิดว่าจะได้รู้จักอีกครั้ง (แต่ไม่ได้พบหน้ากัน) ทางหนังสือที่เขียน และก็รายการทางทีวี ที่คุณวิกรมได้แสดงความคิดเห็นของการเมืองการปกครอง แล้วก็มุมมองด้านอื่นๆอีก ก็เลยได้รู้อีกด้านนึงของคุณวิกรมน่ะค่ะ
เหมือนเดิมค่ะ คุณวิกรมชอบทำให้ทึ่งเรื่อยเลย ความคิดที่ไม่เหมือนใครและก็ไม่มีใครเหมือน หนูคิดว่าหาได้น้อยคนนะคะ ที่แสดงความคิดได้ชัดเจนและสะท้อนมุมมองที่หนูนึกไม่ถึงว่า เอ…คิดได้ไงเนี่ยสุดยอดจริงๆค่ะ
ถ้าหนูเป็นแฟนของคุณวิกรม ต้องบอกว่าหนูเป็นแฟนพันธุ์แท้นะคะ คืออยู่ในระดับดีเอ็นเอเลยค่ะ จะติดตามผลงานของคุณวิกรมตลอดไปค่ะ ไม่ว่าจะเขียนหนังสือ ออกพ๊อคเก็ตบุ๊ค ออกรายการทีวี หรือจะทำอะไรที่หวือหวาแหวกแนวสุดๆ (ซึ่งหนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ) ก็จะตามตลอดไปค่ะ แต่ต้องช่วยบอกด้วยนะคะ ตอนออกรายการ CEO Vision
รบกวนขอไฟล์ด้วยนะคะ
อ่านแล้วครับ
มองโลกอย่างวิกรม
ส่วนผมจะเป็นคนดีนี่ซื้อไว้แต่ยังไม่ได้อ่าน
ขอบคุณที่ทำหนังสือดีๆ ออกมา ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วย
เป็นแฟนรายการครับ
ถ้าที่พระจอมเกล้าเปิดหลักสูตรสั้นๆ อย่าลืมแจ้งในรายการนะครับ ผมเด็กบางมด แต่ไม่อยากเรียนโทแล้วขี้เกรียจสอบ
แม้จะชอบอ่านหนังสือมากๆ ถ้าเป็นหลักสูตรสั้นๆก็น่าสน
ติดตามงานคุณวิกรม ประจำ และจะคอยอ่าน “เมื่อวันนั้นมาถึง” คงเป็นหนังสือที่ให้ข้อคิด และเป็นหนังสือที่เศร้า ของทรัพยากรบุคคลคนหนึ่ง ขอไฟล์ฉบับเต็ม ด้วยนะครับ
ฟังรายการคุณวิกรม บ้างในวันที่มีโอกาส เพราะเวลาไม่อำนวย เนื่องจากเป็นเวลา ที่ส่วนใหญ่ จะถูกเจ้านาย เรียกประชุมทุกครั้ง และมีปัญหาบางอย่างอยากเรียนถามคุณวิกรมบ้าง ค่ะ ว่าจะทำอย่างไร กับการเป็นคนชอบผลัดวันประกันพรุ่ง ตลอดเวลา และมีเงื่อนไขและการให้อภัยกับการกระทำผลัดวันประกันพรุ่งให้กับตนเองอยู่เสมอเลยค่ะ ขอแบบว่า ให้โรคนี้หายขาดไปจากชีวิตตลอดกาลเลยน่ะค่ะ ช่วยด้วยค่ะ เพราะบางครั้งทำให้พลาดโอกาสดีๆ ไปน่ะค่ะ ถ้าตอบผ่าน mail ก้อจะขอบคุณมากน่ะค่ะ แต่ถ้าเป็นไปได้จะพยายามฟังทางวิทยุค่ะ เพราะรายการของคุณธันยวัชร์ และคุณอาทิตย์ มี rerun แต่ไม่ทราบว่า ceo vision มี rerun หรือไม่ แล้วมีเวลาไหนค่ะ จะได้ฟังย้อนหลังได้บ้างค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้า สำหรับคำแนะนำดี ๆ ที่มีให้กับผู้ฟัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย ๆ ถ้าได้มีการลงมือทำ
ดิฉันเริ่มจะเชื่อเรื่องๆหนึ่ง ปัญหาและอุปสรรคสร้างคนเก่งได้ ถ้าเราสามารถฟันฝ่าไปได้
ชอบหนังสือ “มอง CEO โลก” มาก หนังสือพิมพ์ได้อย่างมีคุณภาพ ใช้กระดาษดีมาก ราคาถูกมากๆ
และที่สำคัญเนื้อหาข้างใน โดยการหยิบยกบุคคลแต่ละท่าน เลือกได้ดี หลากหลาย และเป็นบุคคลที่น่ายกย่องจริงๆ และสมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
นอกจากนี้ ในแต่ละบทความ จะมีเนื้อหาที่แฝงไว้ด้วยหลักการต่างๆ มากมาย อาทิ หลักการบริหาร หลักการใช้ชีวิต เป็นต้น ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงได้
การรวบรวมประวัติแต่ละท่าน ทำได้ดีมาก การเขียนร้อยเรียงเป้นเรื่องราว ทำให้น่าอ่าน น่าติดตาม ผมขอชมเชยว่า คุณวิกรมทั้งพูดและเขียนเก่งมาก มีตรรกะดีเยี่ยม สมแล้วครับที่ประสบความสำเร็จ ผมขอเรียกคุณวิกรมว่า Mr. CSR ครับ
ขอเป็นกำลังใจให้กับการทำสิ่งดีๆ ให้กับสังคมไทยครับ
ผมชอบที่ คุณวิกรมรอบรู้ไปหมดเสียทุกด้านเลยครับ ประวัติศาสตร์ต่างๆๆที่ผมสนใจ ส่วนใหญ่เจอเป็นบทความที่คุณวิกรมเขียนทั้งนั้นเลย ทำให้ผมเริ่มสนใจคุณวิกรม โดยส่วนตัวผมไม่เคยอ่านหนังสือของคุณวิกรมเลยซักกะเล่ม ส่วนใหญ่ที่ได้อ่านเป็นบทความตามหนังสือพิมพ์ และฟังจากรายการCEO VISION ก็ชอบมากเลยติดตามเรื่อยๆๆ และจะติดตามตลอดไป
ผมคุ้นเคย “กรมดิษฐ์” ซึ่งเป็นอาคารที่ตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรีที่เคยนั่งรถผ่านเป็นประจำ
แต่ได้รู้จัก วิกรม กรมดิษฐ์ เมื่อออกรายการเจาะใจไม่กี่ปีมานี้
และหลังจากนั้น ผมก็เริ่มได้รับรู้ รับฟังแนวคิดจากคุณวิกรมอยู่เรื่อยๆ
ทั้งผ่านทางรายการทีวี และวิทยุอยู่เนืองๆ
ผมชอบแนวคิด และทัศนะของคุณวิกรม ทั้งที่ตอนต้นได้ฟังจะรู้สึกว่าแปลก (แต่โดน)
หลายๆ ครั้งมีความรู้สึกว่า คุณวิกรมมีมุมมองหลายๆ อย่างที่แตกต่างจากคนอื่น
ซึ่งหลายๆ คนไม่ได้คิด หรือคิดไม่ได้ อาจารย์หลายๆ ท่านที่เคยสอนผมไว้ว่า
เพียงแค่ความคิดเปลี่ยน ชีวิตก็จะเปลี่ยนไป
ผมอยากคิดอะไรดีๆ ได้อย่างคุณวิกรมจริงๆ
ครับ
ผมเห็นคุณวิกรมครั้งแรก ในนิตยสารอะไรจำไม่ได้ เป็นบทความการดำเนินชีวิตและมีรูปคุณวิกรมถ่ายที่บ้านที่อยู่กลางน้ำประกอบ พอผมอ่านจบ ก็เกิดนึกว่า คนผู้นี้ประหลาดจัง ใช้ชีวิตแบบนี้ได้ และก็คิดไปว่า ก็มีแต่คนรวยๆ ครับ ที่สามารถใช้ชีวิตแบบเท่ๆ อย่างนี้ได้
พอมาช่วงหลัง ผมก็ได้พบเห็นคุณวิกรมทั้งในทีวีและในนิตยสารบ่อยครั้งขึ้น แต่ผมก็ยังไม่เคยอ่านหนังสือที่คุณวิกรมเขียนเลยสักเล่ม แต่จะได้รับฟังเรื่องราวของคุณวิกรมผ่านรายการ Business Connection ซ่ะเป็นส่วนใหญ่ ตอนนี้ ผมก็เลยอยากจะศึกษาคุณวิกรมมากขึ้น ไม่ใช่แง่ในความสำเร็จอย่างเดียว เพราะการที่คนๆ หนึ่งจะก้าวมาได้ถึงขนาดนี้ต้องมีทัศนคติที่เป็นแรงผลักดันในชีวิต อีกทั้ง อยากจะรู้ว่าคุณวิกรมจะมีวิธีการจัดการด้านลบที่เกิดขึ้นในใจอย่างไร หรือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในชีวิตอย่างไร
เพราะผมเชื่อว่าคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ใช่มีแต่ความคิดที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องรู้จักจัดการความคิดด้านลบที่เกิดขึ้นและความล้มเหลวทีเกิดขึ้นกับตัวเองด้วยครับ
ผมฟังรายการของคุณวิกรมบ่อย เนื่องจากเวลานั้นของทุกวันจะกำลังขับรถอยู่ แรกๆรู้สึกว่าแกจะมาจัดรายการวิทยุทำไม รวยอยู่แล้ว
ฟังๆไปชักชอบแนวทางการตอบคำถามของแก แล้วเริ่มรู้สึกว่าแกเล่าเรื่องมันสมาก สุดท้ายผมว่าผมคงเป็นหนึ่งของแฟนคลับแก 555
ยืนยันได้เพราะวันนั้นผมเจอคุณวิกรม ในงานแต่งงานของเพื่อนผม
ธาวิน ศรีเฟื่องฟุ้ง ผมเกือบจะเดินไปขอลายเซ็น แกอยู่แล้ว แต่ไม่กล้าเพราะคนเยอะ เลยแอบปลื้มแกอยู่ห่างๆ
ขอสมัครเปนแฟนคลับไปเลยแล้วกันนะครับ
ผมอยากได้ไฟล์…ครับ ขอมีส่วนร่วมด้วยครับ
ผมชื่นชอบวิธีการเขียนหนังสือของคุณวิกรม โดยเฉพาะมุมมองแบบที่คนเป็น ceo มอง
และถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ ค่อนข้างจะประณีตมาก และไม่ฟุ่มเฟือย.
ช่วงหลัง เขาออกรายการทีวีเยอะมาก ๆ แต่ยังให้สาระได้เข้มข้นอยู่
และเป็นคนๆหนึ่งซึ่งน่าจะรู้ทันคุณธันยวัชร์ อย่างเหมาะเจาะ….เวลาสัมภาษณ์คู่กันฟังแล้วสนุกดี
ผมเป็นแฟนรายการของคุณธันยวัชน์ทั้ง 96.5 และนิตยสาร Thaicoon ชอบมากที่ 96.5 สามารถฟังย้อนหลังได้ ผมมักจะใช้ Aircard เข้า internet ฟังช่วงเวลาที่ผมขับรถ สนุกดีและมีประโยชน์มาก
ส่วนคุณวิกรม ก็เป็นอีกท่านหนึ่งที่มีประวัติน่าสนใจ ทั้งในแง่การทำงานและการใช้ชีวิต โดยเฉพาะความเห็นเกี่ยวกับประเทศไทย ที่เคยพูดไว้หลายๆ ครั้งทั้งที่รายการ CEO vision ทาง 96.5 และที่ออกรายการของคุณสัญญา (ซึ่งหลายคนคงคิดว่าแกคงเพี้ยนๆ เพราะหลายไอเดียที่แกคิดไว้ เช่นเรื่อง Amata Castle นั้นดูจะหลุดโลกไปนิดนึง) ยังไงก็ตามในชีวิตส่วนตัวของบุคคลคนนึง อาจจะมีสิ่งที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน แต่ขอให้มีความรู้สึกในการที่จะทำประโยชน์เพื่อสังคมแล้วละก็ ผมก็คิดว่าเขาเป็น”คนดี” อย่างที่เขาตั้งใจไว้แล้วละครับ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณวิกรม มีสุขภาพแข็งแรง เพื่อที่จะได้นำประสบการณ์ต่างๆ มาถ่ายทอดให้กับผู้คนได้รับรู้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนไทย และสังคมไทย ต่อไปครับ.
ป.ล. ถึงได้ไฟล์ แต่ก็จะยังซื้อ Thaicoon เล่มคุณวิกรมแน่นอนครับ.
เป็นแฟนประจำทั้งรายการ CEO Vision และ Business Connection ฟังแล้วได้สาระและความบันเทิง ช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ขอขอบคุณ อ.ธันยวัชร์ ที่ช่วยให้ความรู้ทางด้านการตลาด และขอขอบคุณ อ.วิกรม ที่ได้ช่วยเปิดโลกทัศน์ในหลายๆ แง่มุมผ่าน CEO โลกและการตอบปัญหาต่างๆ ผมอยากให้ อ.วิกรม ช่วยแนะนำวิธีการและเคล็ดลับในการสอนบุตรหลานให้เก่งได้อย่าง อ.วิกรม และ CEO โลกต่างๆ ขอคำแนะนำด้วยนะครับ
ปล. อ.ธันยวัชร์ ผมขอไฟล์ด้วยคนครับ
ผมชื่นชมคนเก่ง คนที่คิดแล้วลงมือทำให้สำเร็จนั้นน่าได้รับการยกย่อง มากกว่าคนที่ได้แต่คิดแล้วไม่ทำ ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ตาม แรกคือต้องลงมือทำเพื่อเป็นหนทางสู่ความสำเร็จในอนาคต ผิดถูกก็แก้กันไป และคุณวิกรมเป็นคนเก่งคนหนึ่งที่ผมชอบ การทำอะไรสักชิ้นให้สำเร็จนั้นไม่ง่าย ผมว่าคุณวิกรมมีการคิดและการวางแผนดี จึงทำให้อะไรก็ดูง่ายและประสบความเร็จไปทุกเรื่อง ไม่ว่าจะนิคมฯ มูลนิธิฯ หนังสือ อื่นๆที่ผมไม่รู้
ผมชอบที่สุดคือการตัดสินใจทำในสิ่งที่คิด
ผมฟังคุณวิกรมมานานพอสมควร เพราะผมค่อนข้างติดฟังวิทยุ 96.5 ทุกครั้งที่อยู่บนรถ ผมมักจะได้แง่คิดหลายๆ อย่างจากคุณวิกรม ท่านเก่ง ท่านมีวิสัยทัศน์ ผมเคยนึกคิดเหมือนกันว่า เมื่อใดเราจะได้นายก หรือ รัฐมนตรีที่คิดอย่างท่าน ดูอย่างการทำพิพิฒภัณฑ์ ที่ท่านกำลังสร้าง คิดได้ไง ว่าสมบัติของชาติ หลายๆ อย่างควรสอนให้ รุ่นหลังได้รู้ ถึงความผิดพลาดของ คนในยุคแรกๆ เพื่อที่จะได้มีเส้นทางลัด ในการดำเนินชีวิต ในเส้นทางที่ถูกต้อง แล้วรู้จักคำว่าพอเพียง เหมือนดังเช่น ในหลวง พระองค์ตรัสให้ประชาชนทุกคนได้ทราบแล้วนำไปใช้
ปล.ของ Flie ด้วยครับ
ผมซื้อหนังสือ Pocket Book อ่านบ่อยขึ้น…เพราะผมรู้จักคนชื่อวิกรมครับ..แค่ได้ดูเขาออกทีวี..ฟัง96.5 ทุกวันที่เขาพูด ก็มีความสุขครับ..รู้สึกว่าตัวเองฉลาดขึ้นเยอะ มีค่าขึ้นเยอะ รักครอบครัวมากขึ้น รอบครอบขึ้น….สรุปคือคุณวิกรมทำให้ผมมีคุณค่ามากขึ้นครับ…
ผมมี หนังสือแก 2 เล่มแล้วครับ …มองโลกอย่างวิกรมกับ CEOโลก ครับ
ขอfiles ด้วยนะครับ…
แต่….ผมก็ฟัง Bussiness Connection ทูกกกกกกวันคร้าบบบบ..ชอบมากๆๆๆ
ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รู้จักคุณวิกรมในรายการวิทยุ 96.5 และก็รู้สึกชื่นชมในแนวความคิดของคุณวิกรมมาก รวมทั้งการแนวทางในการทำประโยชน์ให้สังคม อย่างน้อยที่สุดก็คือการได้ให้ความรู้และประสบการณ์ต่างๆ แน่นอนที่สุดผมเป็นคนหนึ่งที่ได้รับประโยชน์นั้น ขอบคุณครับ
ปล.ขอ file pdf ด้วยครับ
ขอบคุณครับ
ผมติดตามคุณวิกรมด้วยความชื่นชมมานานแล้ว และนำแนวคิดต่างๆ,วิสัยทัศน์ ที่ท่านได้แบ่งปันไปปรับปรุงใช้กับตัวเองและถ่ายทอดไปยังสายงานบังคับบัญชา เห็นผลได้อย่างชัดเจนเลยว่าทำให้ผู้คนมากมายเข้าใจและใช้ชีวิตได้ดีขึ้น เหมือนกับเป็นทางลัดของชีวิตและช่วยลดต้นทุนชีวิตอย่างที่คุณวิกรมกล่าวไว้จริงๆครับ
ขอบคุณสำหรับแง่คิดและประสบการณ์ดีๆที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ และขอบคุณผู้เขียนผู้สัมภาษณ์ที่ทำให้มีผู้คนได้พบสิ่งดีๆมากขึ้นครับ
ขอ file pdf ด้วยครับ
ขอบคุณครับ
ผมได้ฟังคุณวิกรมอยู่บ่อยๆจาก 96.5 ครับ ชอบมาก และผมขอ pdf ด้วยครับ
ขอไฟล์ด้วยครับ ช่วงนี้คงไม่มีโอกาสติดตามไปฟังสัมมนาอีกพักใหญ่ๆ แต่ความรู้ยังไงก็ต้องคว้า มาฟัง 96.5 ตอน บ่าย 1 (เที่ยงครึ่งไม่มีเวลา) ผมว่าที่คุณวิกรมเริ่มเรื่องร้ายของตนเองในผมจะเป็นคนดี เป็นหลักการคล้ายกับคุณ วีระ หรือ มดดำ คือคนสมัยนี้ชอบอะไรที่แตกต่าง ไม่ชวนฝันมากเกินไป spider man เลยดังเพราะ ชีวิตของเขาธรรมดามากๆ แค่ได้รับโอกาสและคว้าไว้ให้ได้ จากนั้นก็พยายามรักษามันไว้ พัฒนามันขึ้นมา
สำหรับคุณวิกรม แล้วเมื่อก่อนผมก็มองว่าเป็นนักธุรกิจทั่ว ๆ ไป ที่มุ่งแสวงหากำไร หาประโยชน์ให้ตนเอง แต่มาวันนี้ผมเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อคุณวิกรมแล้วครับ เข้าใจแล้วว่าทำไม แกจึงตั้งชื่อนิคมอุตสาหกรรมของแกว่า อมตะ
รบกวนอาจารย์ช่วยส่งไฟล์ฉบับเต็มให้ด้วยครับ
รบกวนส่งไฟล์ให้หน่อยค่ะ
ขอบคูรค่ะ
รบกวนส่งไฟล์ให้หน่อยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ขอไฟล์ด้วยครับ view2306@yahoo.com และชอบฟังคุยวิกรมมากครับ
และวันนี้8/01/2008ฟังรายการ business connection เกี่ยวกับหมอดู ผมอยากได้ข้อมูลหมอดูที่อาจารย์บอกว่าแม่นมาก ที่ราชบุรีครับผม รบกวนด้วยครับ
Use to know his name as one of young succeseful business man with “Amata Empires” in various places as well as a rich playboy who enjoys work ,life and drink. Wonder what has changed him to another side of his coin???.
His lately mission to give and share for others is so great and impressed me very much.
How can he influence his business concept as role model for other Thai rich businessmen to leverage our society?
(Buddha bless Khun Vikrom and FM 96.5 team for good health , wealth and mee dhamma duay.
ปล.ขอไฟล์ฉบับเต็มเป็น PDF
Thank you.
คาระวะศธัทธา ขอไฟล์เต็มๆ บ้างด้วยคน
ผมชอบคุณวิกรม ในด้านที่เสนอมา
ที่สุดคือ ” การหยุด การรู้จักพอ ในแนวคิดของ วิกรม”
ชื่นชมแนวคิด ของคุณวิกรมค่ะ
ติดตามฟังทุกวันค่ะ
ชอบฟังแนวความคิดของคุณวิกรมค่ะ มีประโยชน์มากๆเลย
ขอไฟล์ด้วยค่ะ
คุณวิกรมเป็น “คนไทย” ที่เก่งและมีคุณภาพอีกคนค่ะ
ทึ่งกับความคิดของเค้ามาก อยากเก่งอย่างนี้บ้างจัง
ผมก็ชื่นชมคุณวิกรม คนหนึ่ง ที่เป็นคนที่เป็นผู้นำที่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องเดินตามแบบตะวันตก เราเอเชียมีรากฐานที่ลึกซึ้งกว่าประเทศทางตะวันตกมาก แต่ทุกวันนี้ต้องไปเดินตาม ต้องเรียนตามและยังยกย่องเค้ามากกว่าภูมิปัญญาของเรา
สุดท้ายขอไฟล์ด้วยครับ ขอบคุณครับ
ขอชื่นชมคุณไกลๆ ไม่หวังอะไรตอบแทน
ติดตามผลงานคุณวิกรม มานานแล้วครับ…
ขอเป็นกำลังใจครับ
จะติดตามผลงานคุณวิกรมจนถึงเล่มสุดท้ายครับ
ผมติดตามผลงานของคุณวิกรม ผ่านทาง 96.5 รายการ CEO Vision ผมไม่ได้ฟังในเวลาปกติเท่าไหร่เพราะเป็นเวลาทีผมมักจะติดประชุม แต่! ผมติดตามฟังคุณวิกรมผ่าน Internet ผมคุณวิกรมพูดเกือบหมดแล้วกระมัง ชอบมากที่สุดก็คือ เรื่องที่คุณวิกรมพูดถึง ริชาร์ด แบรนด์สัน คุณวิกรมพูดได้ดีมาก ผมให้ผมนึกถึงตัวเอง คล้ายๆกัน รู้สึกได้กำลังใจมากครับที่ฟังคุณวิกรมพูด
ผมจะติดตามคุณวิกรมต่อไป และขอไฟล์ PDF ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
Sathit
เวลาอ่านหนังสือผมจะเป็นคนดีของคุณวิกรมแล้ว ทำให้รู้สึกถึงความจริงบางมุมในชีวิต เพียงแต่ว่าในบางช่วงเวลาของชีวิตที่ผ่านมาทั้งอดีตที่ไม่สามารถจะย้อนกลับหรือแก้ไขอะไรได้แล้ว แต่ถ้าเปรียบเทียบกับปัจจุบัน ก็ต้องทำให้ดีที่สุด และตัวคุณคิดว่าปัจจุบันคุณได้ทำอะไรอย่างดีที่สุดแล้วหรือ และการที่ ณ วันนี้ คุณประสบความสำเร็จในทุกสิ่งแล้ว คุณมีความสุขกับปัจจุบันจริงหรือเปล่า การที่ ณ วันนี้คุณเป็นคนที่สังคมรู้จักและให้ความสนใจอยู่นั้น คุณมีอิสระภาพของเวลาหรืออิสระภาพในการใช้ชีวิตหรือเปล่า บางครั้งคนเราก็ต้องการความเป็นส่วนตัว กับใครสักคนที่อาจไม่ใช่คู่ชีวิตแต่เป็นเพื่อนหรือคนรู้จักที่สามารถพูดคุยกันได้ โดยไม่มีเงื่อนไข คุณว่าจริงใหมคะ
ได้เห็นคุณวิกรมไปแจกลายเซ้นต์ที่สัปดาห์หนังสือเมื่อวันที่ 14/10/51 นี้ รู้สึกเหนื่อยแทนกับการเป็นคนดังเหมือนกันนะคะ อยากทราบว่ามีเวลาส่วนตัวของตัวเองจริง ๆ ใหมคะ เห้นแล้วน่าเหนือยจัง อยากทราบว่าไม่อยากเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีใครสนใจว่าจะไปไหนหรือทำอะไรบ้างหรือคะ ที่คนชั้นกลางหรือชั้นล่างเรียกว่า อิสระภาพทางชีวิต น่ะค่ะ
รบกวนขอไฟล์ ด้วยนะครับ ตอนนี้ มีน้องชายกำลังประสบปัญหากับพ่ออยู่
ในฐานะที่เป็นพี่ ก็อยากให้เค้าใจเย็นๆ ค่อยๆ แก้ปัญหา หวังว่าเนื้อหาในหนังสือ จะทำให้เค้าคิดได้ขึ้นครับ
ขอบคุณครับ
ได้ติดตามฟังข้อคิดจากCEO VISIONและอ่านหนังสือแล้ว ประทับใจมาก ถ้านำวิเคราะห์และปฏิบัติให้เหมาะกับตนๆด้ ชีวิตจะมีความสุขสวัสดี เป็นแบบอย่างให้คนเราควรรู้จักเหลียวดูตนเองบ้าง จะได้ไม่คิดว่าตนดีหลุดโลก ไม่หลงตัวเอง จนนำความวิบัติมาสู่ตนเอง ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยโปรดอวยให้ คุณวิกรมมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ได้ทำสิ่งดีๆให้ประเทศไทยอีกยาวนานค่ะ
แค่แนวคิดก็สุดยอดแล้วครับ สำหรับคุณวิกรม
ผมจะติดตามคุณวิกรมต่อไป และขอไฟล์ PDF ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ชอบแนวคิดที่แปลกและแตกต่างจากคนทั่วไปของคุณวิกรมเค้าค่ะ
ส่วนตัวยังไม่เคยอ่านหนังสือขอวเค้าค่ะ แต่เคยดูผ่ายรายการสัมภาษณ์ทาง TV บ้างแล้ว
ยอมรับเลยว่าผู้ชายคนนี้น่าสนใจมาก มีความคิดที่แปลก ไม่เหมือนใคร และเป็นคนที่ตรงมาก
ยังไงก็จะขอติดตามผลงานของคุณวิกรมต่อไปค่ะ รบกวนขอไฟล์ PDF ด้วยคนนะคะ
ขอบคุณค่ะ
อ่านแล้วชอบมาก
รบกวนขอไฟล์ PDF ด้วย
จริงๆแล้ว โดยส่วนไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับท่านเลย
แต่คุณพ่อ และ คุณพี่ชาย ชื่นชอบในตัวท่านวิกรม กรมดิษฐ์ มาก
เลยแวะเข้ามาหาข้อมูลชีวประวัติเกี่ยวกับตัวท่านจน พบ เวบไซด์นี้ค่ะ
ขอรบกวน ช่วยส่งไฟล์PDF ให้ด้วยนะคะ
ผมติดตามอ่านหนังสือของคุณวิกรม ทุกเล่มเลยครับ ชอบมากๆ ได้ความรู้ แนวคิด
ตอนนี้ CEO 7 แล้ว แต่ได้ยินมาว่าคุณวิกรม จะเขียน ถึง CEO 10 อยากให้ เขียนต่อไป
ราคาหนังสือก็เหมาะสมอย่างมาก 100 บาท เท่านั้นเอง
เสียดายเมืองไทยราคาหนังสือผมว่ามันแพงไปนะครับ ไม่อย่างนั้นคนรักการอ่าน
คงจะมีหนังสือสะสมมากมายครับ
I have never thought there is a person likes Khun Vikorm in Thailand. I wish Thai politicians take some part of Khun Vikorm to mange Thailand would be a great Country in South East Asia as his Business.
Thank you,
May I have his PDF file to my email address. I wish he could come to West Palm beach or Melbourn, FL to share his successful or speech to Thai people around this area.
How to become a successful business person.? NOt just ONLY TAKE BUT GIVE Back to Thai Society as Indian, Vietnamese ETC as we saw..
THank you,
อยากอ่านมากค่ะ ขอแบบ pdf ด้วยค่ะ ขอบคุณ
คุณวิกรมเป็นบุคคลที่มีอุดมการที่ผมยกย่องตลอดเวลาในวงสนทนา ความที่เขาคืนสิ่งที่มีค่าที่สุดคือประสบการณ์ชีวิตสู่สังคมไทย ด้วยการเขียนหนังสือ ที่ราคาที่ทุกคนสามารถหาซื้ออ่านได้
ผมได้รับหนังสือจากเพื่อน บอกมีหนังสือดีให้อ่าน ได้อ่านแล้ว ผมว่า”ผมจะเป็นคนดี” เป็นอะไรมากกว่าหนังสือประวัติธรรรมดา ผมว่าเป็นหนังสือสุดยอดจริงๆ ที่ได้อ่าน หาซื้อ เพื่อเก็บแต่หาไม่พบ อย่าเก็บไว้ เป็นpdf ผมว่าก็ดีนะ
ด้วยความขอบคุณ
อยากอ่านอีกมากๆเลยครับ รบกวนขอไฟล์ PDF หน่อยะครับ
อยากอ่านมากๆค่ะ อาจารย์แนะนำมา แต่หาซื้อหนังสือไม่ได้แล้ว รบกวนขอไฟล์ pdf ด้วยนะคะ
ผมได้มีโอกาสได้ยินชื่อคุณวิกรมครั้งแรกเมื่อประมาณปี 52 จากแม่ผมเอง แม่บอกว่าแม่ได้อ่านหนังสือของคุณวิกรมแล้วชอบมาก ชอบแนวความคิดหลายๆอย่าง จากนั้นผมก็ได้ยินชื่อหนังสือเรื่อง “ผมจะเป็นคนดี” แค่ชื่อหนังสือผมก็อยากจะอ่านแล้ว จากนั้นบังเอิญวันที่ 18 ต.ค.ปี 52 ผมได้ไปเดินงานหนังสือและเจอคุณวิกรมตัวจริงเข้า ด้วยความดีใจ เห็นหนังสือชื่อ “ผมจะเป็นคนดี ก่อร่างสร้างธุกิจ” ผมเข้าใจว่าเป็นหนังสือที่ผมตามหาอยู่ จึงซื้อแล้วให้คุณวิกรมเซ็นต์ให้ บอกด้วยว่า “แม่ผมชอบคุณมาก” และให้เซ็นต์ลงชื่อให้แม่
ไม่นานมานี้ซื้อหนังสือ “ชีวิตใหม่ 2” มาอ่าน เห็นคุณวิกรมเล่าเสมอว่าเอาหนังสือชื่อ “ผมจะเป็นคนดี” ไปแจกตามที่ต่างๆ ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงเอาหนังสือที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจไปแจก มันไม่เฉพาะกลุ่มไปหน่อยเหรอ ผมเลยหาข้อมูลดู อ้าว เพิ่งจะรู้ว่าเข้าใจผิดมาตลอดเลย จริงๆมันเป็นอีกเล่มนึง
ยังไงก็ช่วยสงเคราะห์ให้ผมได้อ่านหนังสือ ที่ผมน่าจะได้อ่านไปเมื่อหลายปีที่แล้วด้วยเถอะนะครับ อยากอ่านจริงๆตอนนี้หาไม่ได้แล้ว
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ พอดีตอนนี้หนูสนใจศีกษาข้อมูลต่างๆของคุณวิกรม และทำชิ้นงานส่งอาจารย์ เรื่องบุคคลต้นแบบ และหนูก็ได้เลือกคุณวิกรม หนูอยากได้ข้อมูลของท่านมากพอสมควรค่ะ รบกวนขอไฟล์ หน่อยได้ไหมคะ หนูชื่นชอบในผลงานของคุณมากค่ะ